แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลม ทำอย่างไรดี?
- Home
- รอบรู้เรื่องรถยนต์
- แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลม ทำอย่างไรดี?
![](https://www.doctorusedcar.com/wp-content/uploads/2022/12/wowcar-drm-–-content3-796x372.png)
สาเหตุของปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็น
![](https://www.doctorusedcar.com/wp-content/uploads/2022/12/wowcar-drm-–-content3-–-1-1024x576.png)
1. ท่อแอร์หรือข้อต่อน้ำยาแอร์รั่ว
ทำให้ระบบแอร์ในรถยนต์ใช้น้ำยาแอร์เพื่อดึงความร้อนออกจากอากาศภายในรถ หากมีการรั่วหรือน้ำยาแอร์หมด ระบบจะไม่สามารถทำความเย็นได้ การรั่วนี้อาจเกิดจากท่อน้ำยาแอร์ที่เสื่อมสภาพ การเชื่อมข้อต่อที่หลวม หรือคอมเพรสเซอร์ที่ชำรุด
ข้อที่ควรระวังอีกหนึ่งสาเหตุ
การใช้น้ำยาแอร์ปลอมที่มีสารเจือปนซึ่งอาจส่งผลต่อระบบภายในของเครื่องยนต์โดยตรง เช่น น้ำยาแอร์ปลอมอาจมีส่วนผสมที่กัดกร่อน ทำให้เกิดการรั่วไหลและทำลายท่อน้ำยาแอร์ ตัวกรอง และน้ำยาแอร์ปลอมมักมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นที่ต่ำกว่าน้ำยาแอร์แท้ ทำให้ระบบแอร์ไม่สามารถทำความเย็นได้เต็มที่ ส่งผลให้แอร์ไม่เย็นเหมือนปกติ
น้ำยาแอร์หมด ควรทำอย่างไรดี?
ห้ามเติมน้ำยาแอร์ด้วยตนเองหากคุณไม่มีความเชี่ยวชาญ การเติมน้ำยาแอร์ด้วยตนเองอาจทำให้ระบบแอร์เกิดความเสียหาย และยังเป็นอันตรายต่อตัวคุณเอง การนำรถไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ เพื่อให้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบระบบแอร์ และทำการเติมน้ำยาแอร์อย่างถูกต้อง และปลอดภัยหากมีส่วนประกอบใดๆ ของระบบแอร์ที่ชำรุด ช่างจะแนะนำให้ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนทดแทน หลังจากการซ่อมแซมและการเติมน้ำยาแอร์ ช่างจะทำการทดสอบระบบเพื่อให้แน่ใจว่าระบบแอร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
![](https://www.doctorusedcar.com/wp-content/uploads/2022/12/wowcar-drm-–-content3-–-2-1024x576.png)
2. ตัวไส้กรองอากาศตัน
ตัวกรองอากาศทำหน้าที่กรองฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกออกจากอากาศก่อนเข้าสู่ระบบแอร์ หากตัวกรองนี้ตันหรือสกปรกมากๆ จะทำให้อากาศที่ผ่านเข้ามาไม่เพียงพอ ทำให้ระบบไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังตามมาด้วยกลิ่นอับและเสี่ยงต่อการสูดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ออกมาทางช่องแอร์อีกด้วย ทางที่ดี ยิ่งเปลี่ยนบ่อย ยิ่งดีกับระบบแอร์และสุขภาพ
วิธีแก้ไขอาการไส้กรองตัน
ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนตัวกรองหากตัวกรองสกปรก ควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ การเปลี่ยนตัวกรองโดยปกติมักจะแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองอากาศแอร์ 15,000 – 30,000 กิโลเมตร และควรตรวจสอบตัวกรองอากาศเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่ดีและสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ การดูแลรักษาตัวกรองอากาศให้สะอาดและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นส่วนสำคัญในการรักษาระบบแอร์รถยนต์ให้ทำงานได้ดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
![](https://www.doctorusedcar.com/wp-content/uploads/2022/12/wowcar-drm-–-content3-–-4-1024x576.png)
3. คอมเพรสเซอร์แอร์ชำรุด
หากพบว่าแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม แต่คอมทำงานอยู่ มีเสียงดังผิดปกติ รู้สึกอากาศไม่หมุนเวียน เป็นไปได้สูงที่จะเกิดจากคอมเพรสเซอร์ชำรุด เนื่องจากคอมเพรสเซอร์เป็นหัวใจของระบบแอร์ ซึ่งทำหน้าที่อัดน้ำยาแอร์ให้มีความดันสูง หากคอมเพรสเซอร์ชำรุด ระบบแอร์จะไม่สามารถทำความเย็นได้
คอมเพรสเซอร์แอร์ชำรุดทำอย่างไรดี ?
การตรวจสอบควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของปัญหาในกรณีที่คอมเพรสเซอร์ชำรุดจริง อาจต้องทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่ การซ่อมแซมคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นงานที่ค่อนข้างซับซ้อนและต้องการความรู้ทางเทคนิคเฉพาะทาง
คำแนะนำ
หากไม่มีประสบการณ์หรือความรู้ที่เพียงพอ การนำรถไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
![](https://www.doctorusedcar.com/wp-content/uploads/2022/12/wowcar-drm-–-content3-–-3-1024x576.png)
4. ปัญหาทางไฟฟ้า
ระบบแอร์ในรถยนต์มีส่วนประกอบทางไฟฟ้าหลายอย่าง เช่น ตัวควบคุม (thermostat), รีเลย์, และฟิวส์ หากมีปัญหาทางไฟฟ้า เช่น สายไฟขาดหรือรีเลย์เสีย ระบบแอร์ก็จะไม่ทำงานได้ตามปกติ พัดลมที่ช่วยในการระบายความร้อนชำรุด หากพัดลมนี้ไม่สามารถทำงานเนื่องจากปัญหาทางไฟฟ้า คอนเดนเซอร์จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้เต็มที่ ของคอนเดนเซอร์มีความสำคัญ วงจรไฟฟ้าที่ชำรุดหรือสายไฟที่หลวมหรือชำรุดอาจทำให้ระบบแอร์ไม่ทำงาน
วิธีตรวจสอบและการแก้ไข
- ตรวจสอบฟิวส์ของระบบแอร์ในกล่องฟิวส์ของรถ หากฟิวส์เสีย ต้องทำการเปลี่ยนฟิวส์ใหม่
- ตรวจสอบรีเลย์ของระบบแอร์ ซึ่งอยู่ในกล่องฟิวส์ใกล้กับคอมเพรสเซอร์ หากมีปัญหาจะต้องเปลี่ยนรีเลย์
- ตรวจสอบพัดลมคอนเดนเซอร์ว่าทำงานปกติหรือไม่ หากไม่อาจจะเป็นเพราะปัญหาทางไฟฟ้า เช่น มอเตอร์พัดลมเสียหรือการเชื่อมต่อที่หลวม
- ตรวจสอบสายไฟที่เชื่อมต่อกับคอมเพรสเซอร์และส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบแอร์ ค้นหาสายไฟที่ชำรุดหรือหลวม
คำแนะนำ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเนื่องจากปัญหาทางไฟฟ้าซับซ้อนและต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การปรึกษาช่างที่มีประสบการณ์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยและได้รับประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
![](https://www.doctorusedcar.com/wp-content/uploads/2022/12/wowcar-drm-–-content3-–-5-1024x576.png)
5. เครื่องยนต์มีความร้อนสูง
ปัญหารถแอร์ไม่เย็น บางครั้งเกิดจากเครื่องยนต์มีความร้อนสูงได้เช่นกัน เนื่องจากพัดลมระบายความร้อนของเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่ดีพอ จนเกิดความร้อนสะสม ซึ่งทำให้แผงทำความเย็นร้อนตามไปด้วย สิ่งที่ตามมาคือแอร์มีแต่ลมร้อน คอนเดนเซอร์ของระบบแอร์ทำงานโดยการระบายความร้อนจากน้ำยาแอร์ หากเครื่องยนต์ร้อนเกินไป คอนเดนเซอร์อาจไม่สามารถระบายความร้อนได้เต็มที่ เนื่องจากอากาศที่ร้อนเกินไป ความร้อนที่สูงของเครื่องยนต์อาจจะทำให้ระบบแอร์ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหากมีปัญหาในการหมุนเวียนของน้ำยาแอร์
วิธีตรวจสอบและแก้ไขหากเครื่องยนต์มีความร้อนสูง
- ตรวจสอบระบบที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์และตรวจสอบระบบแอร์รถยนต์
- ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น หากระดับต่ำ ต้องทำการเติมน้ำหล่อเย็น
- ตรวจสอบการทำงานของพัดลมระบายความร้อน และตรวจสอบว่ารังผึ้งหม้อน้ำอุดตันหรือไม่
- ตรวจสอบคอนเดนเซอร์ว่าไม่มีสิ่งสกปรกอุดตัน ทำความสะอาดหากจำเป็น
- ตรวจสอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์
การบำรุงรักษาเครื่องยนต์
- ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์เป็นประจำ เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและตรวจสอบสายพาน
- หากมอเตอร์พัดลมไม่ทำงาน อาจต้องเปลี่ยนมอเตอร์ใหม่
- หากน้ำหล่อเย็นเก่าหรือมีสภาพไม่ดี ควรทำการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นใหม่
คำแนะนำ
การตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ควรทำอย่างรอบคอบและโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้